จากข่าวที่โด่งดังกัน
ณ ตอนนี้เกี่ยวกับ “ต้นไข่เน่า” ที่เป็นผลไม้ป่าได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวกันในโครงการมหกรรมแพทย์แผนไทยแห่งชาติโดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
ที่จะจัดขึ้น 4 ภาคในปีนี้
ชื่อเรียกของต้นไข่เน่า (Vitex
glabrata) มีอีกหลายชื่อ เช่น ขี้เห็น คมขวาน ฝรั่งโคก
การปลูกต้องใช้เวลาถึง 7 ปีจึงจะออกผลครั้งแรกจึงทำให้ต้นมีน้อย แต่ก็มีงานวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับสมุนไพรชนิดนี้
นักวิจัยของมหาวิทยาลัย Banaras Hindu ประเทศอินเดียได้ทำการทดสอบฤทธิ์ลดการอักเสบในสัตว์ทดลองโดย ใช้ส่วนของใบ
นำมาสกัดด้วยเอทานอลแล้วให้กินทำการเปรียบเทียบกับยาแก้ปวดลดอักเสบแผนปัจจุบัน
พบว่าสารสกัดไข่เน่าสามารถลดการอักเสบได้โดยมีการออกฤทธิ์คล้ายยาแก้อักเสบ มีความเป็นไปได้ว่าสามารถนำมาใช้ในโรคที่มีการอักเสบได้
รวมทั้งมีรายงานการวิจัยในประเทศญี่ปุ่นพบว่าสารสกัดของใบไข่เน่ามีฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมนเอสโตเจน
ทำให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งน้ำนม
น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสตรีที่ให้นมบุตรแต่ไม่มีน้ำนมหรือมีน้ำนมน้อย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีฤทธิ์ปกป้องความเป็นพิษต่อตับอีกด้วย
ประโยชน์เรื่องความสวยความงาม
ของต้นไข่เน่าก็มีเช่นกัน คือ มีการสกัดสาร ecdysteroid นำมาใช้ในเครื่องสำอางค์ที่ป้องกันผมร่วง
ตามสรรพคุณตำรายาไทยแล้วจะใช้ส่วนของเปลือกต้นและราก
แก้ท้องเสีย แก้ตานขโมย สำหรับเด็กที่ไม่เจริญอาหารทำให้เจริญอาหารมากขึ้น แต่โดยทั่วไปที่เราเห็นตามท้องตลาดจะเป็นส่วนผลสีดำ
มีรสหวานเอียน มีสรรพคุณเป็น ยาระบาย
บำรุงสมอง แคลเซียมสูง ซึ่งรับประทานได้รสชาติดี จะรับประทานเป็นผลสุกจิ้มเกลือก็ได้หรือจะนำมายำเป็นอาหารก็ได้
แต่อาจจะรับประทานยากหน่อยเพราะกลิ่นจะเหม็น(บางท่านก็ว่ากลิ่นหอมครับ) ซึ่งตำรับของอภัยภูเบศรมีวิธีการทำน้ำไข่เน่าคือต้มน้ำประมาณ
2 ลิตร ให้เดือดแล้วใส่ผลไข่เน่าสุกปริมาณ 30 กรัม ลงไป ต้มนาน30นาที
หลังจากนั้นใส่ใบเตย แล้วต้มต่ออีก 10 นาที เติมน้ำตาลและเกลือแต่งรสตามชอบ
ทิ้งไว้ให้เย็น นำผ้าขาวบางมากรองแล้วรินใส่แก้ว ดื่มอุ่นๆทุกวัน สามารถนำไปแช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้ครับ
No comments:
Post a Comment