โรค มือ-เท้า-ปาก (Hand,
foot, and mouth disease) เป็นโรคที่พบการระบาดในเด็กทุกๆปี
ส่วนใหญ่จะเกิดในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี สาเหตุมาจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส
โดยแต่ละสายพันธุ์จะทำให้เกิดอาการหนักเบาแตกต่างกันไป
ที่มารูปภาพ : https://www.news4jax.com/health/several-cases-of-hand-foot-and-mouth-disease-reported-in-north-florida
อาการที่พบคือเจ็บปาก มีแผลเล็กๆในปาก หลายจุด
ทำให้เด็กกินข้าวไม่ได้ และมีผื่นเป็นจุดแดง หรือเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณฝ่ามือ
ฝ่าเท้า และพบตามลำตัว แขน ขา หรือตามก้นก็พบได้
ซึ่งอาการเหล่านี้ในรายที่เป็นไม่มากก็จะดีขึ้นเองในประมาณ 1 สัปดาห์
แต่สิ่งที่ควรระวังคืออาการแทรกซ้อนจากเชื้อ Enterovirus 71
(EV71) ที่มักก่อเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงได้คือก้านสมองอักเสบ
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ปัจจุบันยังไม่มียาที่รักษาเชื้อไวรัสชนิดนี้ และยังไม่มีวัคซีนที่จะได้ผลในการป้องกันเชื้อไวรัสในกลุ่มนี้
หลักการรักษาคือรักษาตามอาการของผู้ป่วย
เช่น หากเด็กเพลียจากการรับประทานอาหารไม่ได้ ก็พยายามให้รับประทานอาหารอ่อน
หรือหยอดยาชาในปากเพื่อไม่ให้เจ็บแผล ในกรณีที่อยู่ในโรงพยาบาลก็จะให้น้ำเกลือ
แต่หากในกรณีที่รุนแรงมากเช่นมีอาการทางสมอง ก็จะใช้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน
และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด
สำหรับสมุนไพรที่เคยมีการทำวิจัยในโรคมือ-เท้า-ปาก
คือ ฟ้าทะลายโจร(Andrographis paniculata (Burm.F.) Nees.) เป็นงานวิจัยที่ทำในประเทศจีน โดยนักวิจัยได้สกัดสารสำคัญของฟ้าทะลายโจรและทำให้อยู่ในรูปแบบของยาฉีดคือ
Andrographolide Sulfonate injection
งานวิจัยนี้ทำในเด็กที่เป็นโรคมือ-เท้า-ปาก อายุ
1-13 ปี จำนวน 230 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกจะได้รับการรักษาแบบแผนเดิมร่วมกับ Andrographolide Sulfonate injection อีกกลุ่มจะได้รับการรักษาแบบแผนเดิม
โดยติดตามผล 7-10 วัน ผลที่เกิดขึ้นคือในกลุ่มแรกจะพบอาการแทรกซ้อนแบบรุนแรงน้อยกว่ากลุ่มที่สองอย่างมีนัยยะสำคัญ
นอกจากนี้ยังทำให้ไข้ลงได้เร็วขึ้น,
ทำให้แผลที่ผิวหนังและแผลในปากหายมากกว่ากลุ่มที่รักษาแบบแผนเดิม
และไม่พบการเสียชีวิตรวมทั้งผลข้างเคียงที่รุนแรงในกลุ่มทดลอง
นอกจากนี้หากมีแผลในปากก็สามารถใช้กลีเซอรีนพญายอหยอดบริเวณแผลได้
เนื่องจากในใบพญายอมีสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
ทำให้แผลหายเร็วขึ้นและปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง
โดยสรุปแล้วการป้องกันโรคนี้อาจจะดีที่สุด
เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ ผู้ปกครองควรฝึกให้เด็กๆหมั่นล้างมือให้สะอาดหลังจากหยิบจับสิ่งของ
ก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
ทางโรงเรียนก็ควรจะแยกผู้ป่วยเอาไว้ไม่ให้สัมผัสกับเด็กคนอื่น ทำความสะอาดของเล่น
ห้องเรียนเพื่อลดการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะระวังมากแค่ไหน
เด็กๆก็อาจมีโอกาสรับเชื้อมาได้ ผู้ปกครองก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิด
เฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนต่างๆ และอยากให้ท่านผู้อ่านทุกท่านดูแลรักษาสุขภาพกันในหน้าฝนปีนี้ด้วยครับ
No comments:
Post a Comment