การรักษาภูมิแพ้อากาศด้วยยาสมุนไพร ดีต่อระบบหายใจ

    

•         อาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก คันดวงตา บางครั้งอาจมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย กลุ่มอาการเหล่านี้มักจะเป็นอาการของโรคภูมิแพ้อากาศ ในช่วงหน้าหนาวก็จะเป็นฤดูที่เจอคนไข้เยอะโดยมีสาเหตุจากละอองของต้นไม้ เกสรดอกไม้ ละอองต้นหญ้า สปอร์ของเชื้อรา นอกจากนี้ในคนไข้บางคนอาจจะมีอาการนานทั้งปีไม่ใช่แค่ช่วงเฉพาะฤดูกาล โดยมักจะมีสาเหตุมาจากตัวไรฝุ่น แมลงสาบ สัตว์เลี้ยงในบ้าน ซึ่งปัจจุบันคนไข้สามารถให้แพทย์ตรวจด้วยการทำการทดสอบที่ผิวหนังเพื่อดูว่ามีสาเหตุการแพ้จากสิ่งใดได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง เพราะจะรู้ว่าควรหลีกเลี่ยงสิ่งก่อภูมิแพ้ชนิดนั้น
• 
  
•             การรักษาในปัจจุบันแนะนำให้รักษาตามอาการที่คนไข้เป็น เช่น การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือที่ช่วยล้างสิ่งที่กระตุ้นภูมิแพ้ พวกละอองเกสรต่างๆ การใช้ยาพ่นจมูกบรรเทาอาการคัดจมูก การหยอดตาด้วยยารักษาอาการระคายเคืองตา
• 
  
•                 ยาปราบชมพูทวีปประกอบไปด้วยสมุนไพรถึง 23 ชนิดส่วนใหญ่มีรสเผ็ดร้อน เช่น พริกไทย กัญชาเทศ ขิง ดอกกานพลู กระวาน เป็นต้น ยาตำรับนี้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติใช้รักษาอาการที่มาจากการแพ้อากาศและรักษาอาการหวัดในระยะแรก
• 
  
•             จากผลการวิจัยในหลอดทดลองพบว่า สารสกัดของยาปราบชมพูทวีปมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งดีต่อการสร้างภูมิคุ้มกันทั่วไปในร่างกาย รวมทั้งยังพบว่ายาตำรับนี้มีฤทธิ์ต้านการแพ้และฤทธิ์ต้านการอักเสบอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้มีการทดสอบประสิทธิภาพของยาตำรับนี้เปรียบเทียบกับยาลอราทาดีน (ยาแก้แพ้อากาศแผนปัจจุบัน) โดยเป็นการวิจัยในคนที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ที่มีอาการคันในจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหลลงคอ จาม คันคอ ซึ่งให้คนไข้รับประทานยาปราบชมพูทวีปขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งผลพบว่ายาตำรับนี้มีประสิทธิภาพบรรเทาอาการภูมิแพ้อากาศได้ดีไม่ต่างจากยาแผนปัจจุบัน อีกทั้งมีความปลอดภัยในการรับประทาน นอกจากนั้นยังช่วยเรื่องการลดอาการปวดศีรษะได้มากกว่ากลุ่มที่รับประทานยาแผนปัจจุบัน ซึ่งอาการจะดีขึ้นโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 วัน
• 
  
•             จากข้อมูลงานวิจัยนั้นก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพของยาจากสมุนไพรไทยในการรักษาโรคภูมิแพ้อากาศซึ่งไม่แตกต่างกับยาแผนปัจจุบันเลย แต่อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำให้ผู้ป่วยทำการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ หมั่นทำความสะอาดบริเวณที่พักอาศัยอยู่เป็นประจำ เน้นการดูดฝุ่นหรือใช้ผ้าเปียกเช็ดเพื่อไม่ให้ฝุ่นกระจาย ทำความสะอาดหมอน ผ้าห่ม ทุกสัปดาห์จะด้วยวิธีการซักในน้ำอุ่นหรือตากแดดประมาณ 30 นาทีก็ได้ หากทำได้แบบนี้อาการภูมิแพ้จะดีขึ้นในเร็ววัน