“อย่ากินของสุกๆดิบๆ เดี๋ยวจะเจอพยาธิ” หลายท่านคงเคยได้ฟังคำเตือนเหล่านี้มาตั้งแต่จำความได้
ทั้งจากผู้ใหญ่ คุณครูในวิชาสุขศึกษา หน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ
แต่พยาธิก็ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพของประชาชนจนถึงทุกวันนี้ อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมการดำเนินชีวิต
หรือความเชื่อต่างๆ
ที่มาภาพ: https://www.thairath.co.th/content/40891
สำหรับคอลัมน์นี้จะขอกล่าวเฉพาะเจาะจงแต่พยาธิใบไม้ตับอย่างเดียว
เพราะเป็นพยาธิที่ก่อให้เกิดโรคที่มีความร้ายแรงแก่คนไข้และเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทยมากที่สุด
คือเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดีในคนไทย
พยาธิใบไม้ตับจะพบได้มากในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคเหนือ พยาธิจะมีรูปร่างแบนคล้ายใบไม้ ตัวอ่อนอาศัยอยู่ในปลาน้ำจืดที่มีเกล็ด
ซึ่งหากโตเต็มวัยและอยู่ในร่างกายมนุษย์แล้วจะอาศัยอยู่ที่ท่อน้ำดี
โดยที่ปัญหาหลังจากพยาธิเกาะในท่อน้ำดีแล้วก็จะทำให้ผนังท่อน้ำดีเกิดผังพืด
หนาขึ้นเรื่อยๆ และเกิดการอักเสบซ้ำๆ
สุดท้ายก็อาจมีโรคแทรกซ้อนขึ้นมาคือมะเร็งของท่อน้ำดี
โดยคนไข้ก็มักจะมารักษากันเมื่อเกิดความผิดปกติมากๆ
เช่น อาการตัวเหลือง ตาเหลือง อาจจะมีท้องบวม เบื่ออาหาร
ซึ่งการรักษาคือการกินยาฆ่าพยาธิคือยา Praziquantel เป็นยาที่ได้ผลดีมากในระยะแรกๆ
ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นมากๆแล้ว
ก็จะรักษาแบบประคับประคองตามอาการไป
สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาพยาธิใบไม้ตับมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน
ซึ่งมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำ ซังข้าวโพด,ดอกอัญชันแห้งและขมิ้นชันแห้ง
มาสกัดและทำเป็นผง(อัตราส่วน 7:2:1)
โดยนำมาศึกษาฤทธิ์ต่างๆในสัตว์ทดลองที่เป็นพยาธิใบไม้ตับ
ในการศึกษานี้จะใช้ซังข้าวโพดข้าวเหนียวซึ่งหาได้ง่ายในแถบภาคอีสาน
และมีสาร Anthocyanin หลายชนิดรวมทั้งมีสาร Anti-oxidant
เยอะกว่าพืชชนิดเดียวกัน ส่วนดอกอัญชันก็เป็นดอกไม้ที่มี Anthocyanin สูงเช่นเดียวกัน
ในส่วนของขมิ้นชันก็เป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์อยู่แล้วมีฤทธิ์ต่างๆมากมาย เช่น
ต้านมะเร็ง, ต้านการอักเสบ, ฤทธิ์ฆ่าเชื้อ เป็นต้น
ผลการศึกษาพบว่าตำรับนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น และสาร Anthocyanin
มีความคงตัวมากกว่าสมุนไพรเดี่ยวๆ
นอกจากนี้การผลการศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบในท่อน้ำดี
ก็พบว่าตำรับมีฤทธิ์ลดการอักเสบได้และสามารถลดผังพืดในท่อน้ำดีได้ รวมทั้งลด Oxidative
stress ซึ่งทำให้การทำลาย Cell หรือ DNA
ลดลง ส่งผลดีต่อโรค สุดท้ายก็คือสามารถลดการทำลายตับจากพยาธิใบไม้ตับ
ก็เป็นอีกตำรับหนึ่งที่มีศักยภาพสูงและมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถนำมาใช้จริงในมนุษย์
ซึ่งหากมีข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับตำรับนี้ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังกันต่อไปครับ
สุดท้ายก็อยากจะฝากว่าการป้องกันอันตรายที่ดีที่สุดจากพยาธิใบไม้ตับ คือ
การไม่รับประทานอาหารปรุงสุกๆดิบๆ ตรวจอุจจาระอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อรักษาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ
No comments:
Post a Comment