กดเพิ่มเพื่อน เพื่อคุยกันผ่าน LINE ได้เลยครับ ปุ่มด้านล่าง

เพิ่มเพื่อน

Health information

Herbs

Post Page Advertisement [Top]


การใช้ยาแก้ไอในเด็ก: สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

อาการไอในเด็ก เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมาก ไม่ว่าจะเกิดจากหวัด ภูมิแพ้ หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจอื่น ๆ ทำให้ผู้ปกครองหลายคนมักหาซื้อ “ยาแก้ไอ” มาให้ลูกกินเอง แต่จริง ๆ แล้วการใช้ยาแก้ไอในเด็กมีข้อควรระวังที่สำคัญมาก


สาเหตุของอาการไอในเด็ก

  • การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่

  • ภูมิแพ้จมูก ทำให้มีเสมหะ น้ำมูก และไอเรื้อรัง

  • การติดเชื้อทางเดินหายใจล่าง เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม

  • สิ่งแปลกปลอมเข้าหลอดลม (กรณีนี้อันตราย ต้องรีบพบแพทย์)


ยาแก้ไอที่ใช้ในเด็ก

  1. ยาละลายเสมหะ เช่น ambroxol, bromhexine

    • ช่วยให้เสมหะเหนียวน้อยลง ขับออกง่ายขึ้น

  2. ยาขับเสมหะ เช่น guaifenesin

    • กระตุ้นให้ไอออกมาเพื่อนำเสมหะออก

  3. ยากดการไอ เช่น dextromethorphan

    • ใช้เฉพาะเวลาที่ไอมากจนรบกวนการนอนหรือกินอาหาร แต่ไม่ควรใช้บ่อยในเด็กเล็ก

  4. ยาสมุนไพรแก้ไอ เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม ขิง น้ำผึ้ง (ในเด็กอายุเกิน 1 ปี)


สิ่งที่ต้องระวัง

  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรใช้ยาแก้ไอชนิดกดการไอหรือขับเสมหะเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

  • ห้ามใช้น้ำผึ้งในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เพราะเสี่ยงต่อภาวะ botulism

  • การให้ยาหลายชนิดผสมกันอาจเสี่ยงต่อการได้รับยาเกินขนาด

  • หากไอติดต่อกันเกิน 1–2 สัปดาห์ มีไข้สูง หอบเหนื่อย หรือมีเสมหะปนเลือด ควรพาไปพบแพทย์ทันที


วิธีดูแลเด็กที่ไอโดยไม่ใช้ยา

  • ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ เพื่อช่วยละลายเสมหะ

  • ใช้เครื่องทำความชื้น หรืออบไอน้ำเบา ๆ ในห้อง

  • ให้พักผ่อนเพียงพอ

  • หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ฝุ่น หรืออากาศเย็นจัด


สรุป

อาการไอในเด็กส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งมักหายได้เอง ยาแก้ไออาจช่วยบรรเทาอาการ แต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับวัยและอาการของเด็ก ที่สำคัญคือ ไม่ควรซื้อยาให้ลูกทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย



No comments:

Post a Comment

Bottom Ad [Post Page]